ผลบอลโลก 2022 วันที่ 12: ญี่ปุ่นลิ่วดวลโครเอเชีย, โมร็อกโกได้เจอสเปนWorld Cup 05:37 GMT+7 2/12/22 สรุปผลฟุตบอลโลก 2022 ประจำวันพฤหัสบดีที่ 1 ธันวาคม ซึ่งเป็นการลงสนามเกมสุดท้ายของกลุ่มอีและกลุ่มเอฟ โครเอเชีย 0-0 เบลเยียมเกมสุดท้ายของกลุ่มเอฟ แข่งขันในช่วง 22. 00 น. ระหว่าง โครเอเชีย ลงเล่นที่สนามอาห์หมัด บิน อาลี สเตเดียม ในเมืองอัล รายยาน ของเจ้าภาพกาตาร์ พบกับ เบลเยียม ครึ่งแรกเป็นฝั่งของโครเอเชียเกือบจะได้จุดโทษ ในนาทีที่ 17 จากจังหวะที่ อังเดร ครามาริช ไปโดน ยานนิค การ์ราสโก้ สกัดล้มลงไป แต่เมื่อผู้ตัดสินเช็ค VAR ก็ย้อนมาให้เป็นลูกล้ำหน้าในจังหวะก่อนหน้านี้ของ เดยัน ลอฟเรน ไปแทน ทำให้จบ 45 นาทีแรก สกอร์ยังเสมอกันอยู่ 0-0 ครึ่งหลังแม้ว่าเบลเยียมจะส่งกองหน้าตัวเก่งอย่าง โรเมลู ลูกากู ลงสนามมาตั้งแต่เริ่ม ทว่ากลับกลายเป็น ลูกากู ซึ่งยิงทิ้งทิงขว้างไปเองหลายครั้ง ก่อนที่สุดท้ายจบเกมด้วยผลเสมอ 0-0 ทำให้โครเอเชียเก็บไปได้ 5 คะแนน เข้ารอบเป็นอันดับ 2 ของกลุ่มเอฟ ส่วนเบลเยียมที่มี 4 คะแนน จบอันดับ 3 ตกรอบไปตามระเบียบ แคนาดา 1-2 โมร็อกโก(0-1 น.
ประเทศโมร็อกโก - วิกิพีเดียจากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี พิกัดภูมิศาสตร์: 32°N 6°W / 32°N 6°W ราชอาณาจักรโมร็อกโกالمملكة المغربية (อาหรับ)ⵜⴰⴳⵍⴷⵉⵜ ⵏ ⵍⵎⵖⵔⵉⴱ (Standard Moroccan Tamazight) ธงชาติ ตราแผ่นดิน คำขวัญ: الله، الوطن، الملك (อาหรับ)ⴰⴽⵓⵛ, ⴰⵎⵓⵔ, ⴰⴳⵍⵍⵉⴷ (Standard Moroccan Tamazight)"พระเจ้า, ประเทศ, กษัตริย์"เพลงชาติ: النشيد الوطني المغربي (อาหรับ)ⵉⵣⵍⵉ ⴰⵏⴰⵎⵓⵔ ⵏ ⵍⵎⵖⵔⵉⴱ (Standard Moroccan Tamazight)("เพลงชาติโมร็อกโก")ที่ตั้งของประเทศโมร็อกโกในแอฟริกาตะวันตกเฉียงเหนือสีเขียวเข้ม: ดินแดนของโมร็อกโกสีเขียวอ่อน: เวสเทิร์นสะฮารา ดินแดนที่โมร็อกโกอ้างสิทธิและครอบครองพื้นที่ส่วนใหญ่ในฐานะจังหวัดทางใต้[หมายเหตุ 1]เมืองหลวงราบัต34°02′N 6°51′W / 34.
1912• เป็นเอกราช 7 เมษายน ค. 1956พื้นที่• รวม710, 850 ตารางกิโลเมตร (274, 460 ตารางไมล์)หรือ 446, 550 km2 (172, 410 sq mi)[b] (อันดับที่ 39 หรือ 57)• แหล่งน้ำ (%)0. 056 (250 ตารากิโลเมตร)ประชากร• 2020 ประมาณ37, 112, 080[7] (อันดับที่ 39)• สำมะโนประชากร 201433, 848, 242[8]• ความหนาแน่น50. 0 ต่อตารางกิโลเมตร (129.
รวมเด็ด 7 ที่เที่ยว โมรอคโค สเปน ที่น่าไปเยือนที่สุด!
1 "Morocco". World Factbook. Central Intelligence Agency. ↑ "Présentation du Maroc". Ministère de l’Europe et des Affaires étrangères (ภาษาฝรั่งเศส). ↑ Oukhira, Fatima Zahra. "The teaching of English in Morocco". ↑ "Morocco". Central Intelligence Agency. 23 September 2021. Ethnic groups: Arab-Berber 99%, other 1% ↑ "Constitution of the Kingdom of Morocco, I-1" (PDF). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 18 May 2012. สืบค้นเมื่อ 9 January 2013. ↑ "Morocco Population, 1960-2019 - knoema. com". Knoema.
2518[18] และอ้างว่าเป็นจังหวัดทางใต้ เมืองหลวงของโมร็อกโกคือเมืองราบัต เมืองใหญ่สุดเป็นเมืองท่าชื่อกาซาบล็องกา และเมืองอื่น ๆ ที่มีประชากรมากกว่า 500, 000 คนในการสำรวจสำมะโนประชากรโมร็อกโก 2557 อย่างมาร์ราคิช แฟ็ส แม็กแน็ส แทงเจียร์และซาเล่ห์[19] โมร็อกโกใช้ MA ในมาตรฐาน ISO 3166-1 alpha-2[20] รหัสนี้ใช้เป็นพื้นฐานของโดเมนระดับบนสุดของโมร็อกโก. ma[20] หมายเหตุ[แก้] อ้างอิง[แก้] ↑ "MANDATE". UNITED NATIONS. 26 October 2016. ↑ 2. 0 2.
2537 มีดินแดนห้าแห่งของสเปนบนชายฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียนในแอฟริกาเหนือที่ติดและอยู่ใกล้กับโมร็อกโกได้แก่เซวตาและเมลียา หมู่เกาะชาฟารีนัส โขดหินอาลูเซมัสและโขดหินเบเลซเดลาโกเมราและดินแดนพิพาทอีก 1 แห่งคือเกาะเล็กแพราจิล นอกจากนี้ชายฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติกยังใกล้กับหมู่เกาะคะแนรีของสเปน และมาเดราของโปรตุเกสทางเหนือของโมร็อกโกมีพรมแดนติดกับช่องแคบยิบรอลตาร์ที่สามารถส่งสินค้าระหว่างประเทศไปมาระหว่างมหาสมุทรแอตแลนติกและทะเลเมดิเตอร์เรเนียนได้ เทือกเขาริฟทอดตัวยาวตามชายฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียนจากตะวันตกเฉียงเหนือไปทางตะวันออกเฉียงเหนือ เทือกเขาแอตลาสที่อยู่กลางคล้ายกระดูกสันหลังของประเทศนั้นทอดตัวตั้งแต่ตะวันออกเฉียงเหนือไปตะวันตกเฉียงใต้ ทางตะวันออกเฉียงใต้ประเทศมีทะเลทรายซาฮาราซึ่งไม่ค่อยมีประชากรอาศัยและไม่มีการก่อผลทางเศรษฐกิจ ประชากรส่วนใหญ่อาศัยอยู่ทางตอนเหนือบริเวณ 2 เทือกเขานี้ ขณะที่ประชากรทางใต้จะอยู่ในซาฮาราตะวันตกซึ่งเป็นอาณานิคมของสเปนในอดีตที่ถูกผนวกโดยโมร็อกโกเมื่อ พ.
2499 วัฒนธรรมชาวโมร็อกโกจะเป็นแบบผสมผสานตามอิทธิพลของเบอร์เบอร์ อาหรับ แอฟริกาตะวันตกและยุโรป โมร็อกโกอ้างว่าเวสเทิร์นสะฮาราดินแดนที่ไม่ได้ปกครองตนเองซึ่งเคยเป็นสะฮาราของสเปนนั้นเป็นจังหวัดทางใต้ของโมร็อกโก หลังจากสเปนตกลงที่จะปลดปล่อยดินแดนนี้ให้โมร็อกโกและมอริเตเนียใน พ. 2518 ชาวซาห์ราวีได้ทำสงครามแบบกองโจร มอริเตเนียถอนตัวออกจากดินแดนที่มีสิทธิครอบครองใน พ. 2522 และสงครามอันยืดเยื้อก็ยุติจากการหยุดยิงใน พ. 2534 ปัจจุบันโมร็อกโกครอบครองดินแดนสองในสาม โมร็อกโกปกครองแบบราชาธิปไตยภายใต้รัฐธรรมนูญกับรัฐสภาที่มาจากการเลือกตั้ง กษัตริย์โมร็อกโกมีอำนาจบริหารและอำนาจนิติบัญญัติอย่างมาก โดยเฉพาะการทหาร นโยบายต่างประเทศและศาสนา อำนาจบริหารออกใช้โดยรัฐบาล ขณะที่สภานิติบัญญัติเป็นของรัฐบาลและสภาผู้แทนราษฎรโมร็อกโกและราชมนตรีสภาทั้งสองสภา กษัตริย์สามารถออกพระราชกฤษฎีกาที่เรียกว่าดาฮีร์ซึ่งมีผลบังคับใช้ตามกฎหมาย นอกจากนี้กษัตริย์สามารถยุบสภาหลังจากปรึกษานายกรัฐมนตรีและประธานศาลรัฐธรรมนูญ ชาวโมร็อกโกส่วนมากนับถือศาสนาอิสลามมีภาษาราชการคือภาษาอาหรับและภาษาเบอร์เบอร์ ภาษาเบอร์เบอร์เป็นภาษาหลักของโมร็อกโกก่อนที่อาหรับจะมามีบทบาทในคริสศ์ศตวรรษที่ 600 [16][17] ภาษาอาหรับในโมร็อกโกเรียกว่า Darija โมร็อกโกเป็นสมาชิกของสันนิบาตอาหรับ สหภาพเมดิเตอร์เรเนียนและสหภาพแอฟริกา และมีเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับที่ห้าของแอฟริกา ภูมิศาสตร์[แก้] โมร็อกโกมีชายฝั่งยาวตั้งแต่มหาสมุทรแอตแลนติกยาวขึ้นไปผ่านช่องแคบยิบรอลตาร์จนถึงทะเลเมดิเตอเรเนียน ทางเหนือติดกับสเปน (เซวตา เมลียาและโขดหินเบเลซเดลาโกเมรา) ทางทิศตะวันออกจรดแอลจีเรีย จรดซาฮาราตะวันตกทางทิศใต้ ตั้งแต่โมร็อกโกควบคุมส่วนใหญ่ของซาฮาราตะวันตกจึงมีพรมแดนด้านใต้ติดกับประเทศมอริเตเนียโดยพฤตินัย ประเทศโมร็อกโกตั้งอยูที่ละติจูด 27 องศาถึง 36 องศาเหนือและจากลองจิจูด 1 องศาถึง 17 องศาตะวันตก แต่หากร่วมพื้นที่ซาฮาราตะวันตกโมร็อกโกจะตั้งอยู่ระหว่างละติจูด 21 องศาถึง 36 องศาเหนือและจากลองจิจูด 1 องศาถึง 17 องศาตะวันตก พื้นที่ของโมร็อกโกครอบคลุมตั้งแต่ชายฝั่งแอตแลนติก พื้นที่ภูเขาตรงกลางและทะเลทรายซาฮาร่า โมร็อกโกเป็นประเทสในแอฟริกาเหนือติดกับมหาสมุทรแอตแลนติกและทะเลเมดิเตอร์เรเนียนระกว่างแอลจีเรียกับซาฮาราตะวันตก และเป็นหนึ่งในสามประเทศที่มีชายฝั่งติดกับมหาสมุทรแอตแลนติกและทะเลเมดิเตอร์เรเนียน (อีกสองประเทศคือสเปนและฝรั่งเศส) พื้นที่ส่วนใหญ่ของโมร็อกโกเป็นภูเขา เทือกเขาแอตลาสตั้งอยู่ตรงกลางและทางตอนใต้ของประเทศ เทือกเขาริฟอยู่ทางตอนเหนือของประเทศ เทือกกเขาทั้งสองนี้มีชาวเบอร์เบอร์อาศัยอยู่ หากไม่นับซาฮาราตะวันตกจะมีพื้นที่ 446, 550 กิโลเมตรมีขนาดเป็นอันดับที่ 57ของโลก ติดกับแอลจีเรียทางตะวันออกและตะวันออกเฉียงใต้แม้ว่าชายแดนระหว่างสองประเทศถูกปิดตั้งแต่ พ.
5 ต่อตารางไมล์)จีดีพี (อำนาจซื้อ)2019 (ประมาณ)• รวม332. 358 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ[9]• ต่อหัว9, 339 ดอลลาร์สหรัฐ[9]จีดีพี (ราคาตลาด)2019 (ประมาณ)• รวม122. 458 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ[9]• ต่อหัว3, 441 ดอลลาร์สหรัฐ[9]จีนี (2015)40. 3[10]ปานกลางเอชดีไอ (2019) 0. 686[11]ปานกลาง · อันดับที่ 121สกุลเงินดิรฮัม (MAD)เขตเวลาUTC+1[12]ขับรถด้านขวารหัสโทรศัพท์+212โดเมนบนสุด. maالمغرب. ^ ศาสนาประจำชาติ^ พื้นที่ 446, 550 ตารางกิโลเมตร (172, 410 ตารางไมล์) ไม่รวมดินแดนพิพาททั้งหมด ส่วน 710, 850 ตารางกิโลเมตร (274, 460 ตารางไมล์) รวมดินแดนอ้างสิทธิของโมร็อกโกและพื้นที่ควบคุมบางส่วนของเวสเทิร์นสะฮารา (อ้างสิทธิเป็นสาธารณรัฐประชาธิปไตยอาหรับซาห์ราวีโดยแนวร่วมโปลิซาริโอ) โมร็อกโกยังอ้างสิทธิเซวตาและเมลียา ซึ่งรวมพื้นที่อ้างสิทธิอีกประมาณ 22. 8 ตารางกิโลเมตร (8. 8 ตารางไมล์) โมร็อกโก[a] มีชื่อทางการคือ ราชอาณาจักรโมร็อกโก, [b] เป็นรัฐเดี่ยวและรัฐเอกราชที่ตั้งอยู่ในภูมิภาคมาเกร็บในแอฟริกาเหนือ เป็นหนึ่งในถิ่นกำเนิดชนเบอร์เบอร์[13][14] ในทางภูมิศาสตร์โมร็อกโกมีเทือกเขาหินขรุขระตรงกลาง มีทะเลทรายขนาดใหญ่และมีชายฝั่งยาวมาตั้งแต่มหาสมุทรแอตแลนติกจนถึงทะเลเมดิเตอเรเนียน โมร็อกโกมีพื้นที่ประมาณ 710, 850 ตารางกิโลเมตรและประชากรกว่า 35, 276, 786 คน[15] เมืองหลวงชื่อราบัตและมีเมืองใหญ่สุดชื่อกาซาบล็องกา นอกจากนี้ยังมีเมืองสำคัญอื่น ๆ อีกอาทิมาร์ราคิช แทงเจียร์ ซาเล่ห์ แฟ็ส แม็กแน็สและ วัจด้า ในทางประวัติศาสตร์โมร็อกโกเป็นประเทศอำนาจนำภูมิภาคมีความเป็นอิสระและไม่ได้ถูกยุ่งเกี่ยวหรือรุกรานโดยเพื่อนบ้านตั้งแต่สุลต่าน โมเลย์ อิดริส ที่ 1ก่อตั้งรัฐโมร็อกโกครั้งแรกใน พ.
Cambridge University Press. ISBN 978-0-521-33767-0. ↑ "การประเมินประชากรโลก พ. 2560". ESA. UN. org (custom data acquired via website). United Nations Department of Economic and Social Affairs, Population Division. สืบค้นเมื่อ 10 September 2017. ↑ Rodd, Francis. "Kahena, Queen of the Berbers: "A Sketch of the Arab Invasion of Ifriqiya in the First Century of the Hijra" Bulletin of the School of Oriental Studies, University of London, Vol.
2019. สืบค้นเมื่อ 2 April 2020. ↑ "Rgbh 2014" (ภาษาฝรั่งเศส). HCP. 2014. สืบค้นเมื่อ 17 October 2019. ↑ 9. 0 9. 1 9. 2 9. 3 "Morocco". IMF. ↑ Africa's Development Dynamics 2018:Growth, Jobs and Inequalities. AUC/OECD. 2018. p. 179. สืบค้นเมื่อ 18 December 2020. ↑ Human Development Report 2020 The Next Frontier: Human Development and the Anthropocene (PDF). United Nations Development Programme. 15 December 2020.
pp. 343–346. ISBN 978-92-1-126442-5. สืบค้นเมื่อ 16 December 2020. ↑ "Morocco Keeps Clocks Steady on GMT+1". 28 October 2018. ↑ Books Llc (September 2010). Ethnic Groups in Morocco: Berber People. General Books LLC. ISBN 978-1-156-46273-7. ↑ Jamil M. Abun-Nasr (20 August 1987). A History of the Maghrib in the Islamic Period.
1332 ประเทศถูกปกครองโดยระบบราชวงศ์และเจริญสุดขีดในช่วงราชวงศ์อัลโมราวิดและราชวงศ์อัลโลฮัดซึ่งครอบครองส่วนหนึ่งของคาบสมุทรไอบีเรียและแอฟริกาตะวันตกเฉียงเหนือ ราชวงศ์มารีนิดและราชวงศ์ซาดีได้ยืนหยัดต่อต้านการรุกร่านจากต่างประเทศ อีกทั้งโมร็อกโกเป็นประเทศในแอฟริกาเหนือประเทศเดียวที่เลี่ยงการยึดครองจากจักรวรรดิออตโตมันได้ ราชวงศ์อเลาอัวซึ่งปกครองประเทศอยู่ในปัจุบันนั้นขึ้นมามีอำนาจในโมร็อกโกตั้งแต่ พ. 2174 ใน พ. 2455 โมร็อกโกถูกแบ่งเป็นโมร็อกโกในอารักขาของฝรั่งเศส โมร็อกโกในอารักขาของสเปนกับเขตสากลในแทนเจียร์และกลับมาได้รับเอกราชใน พ.
033°N 6. 850°Wเมืองใหญ่สุดกาซาบล็องกา33°32′N 7°35′W / 33. 533°N 7. 583°Wภาษาราชการอาหรับเบอร์เบอร์ภาษาพูดภาษาอาหรับโมร็อกโกภาษาอาหรับฮะซานิยะฮ์เบอร์เบอร์ฝรั่งเศส[หมายเหตุ 2]ภาษาต่างชาติอังกฤษ • สเปน[4]กลุ่มชาติพันธุ์ (2014[5])99% อาหรับ-เบอร์เบอร์1% อื่น ๆศาสนา 99% อิสลาม (ศาสนาประจำชาติ)1% อื่น ๆ (รวมคริสต์, ยิว และบาไฮ)[2]การปกครองรัฐเดี่ยว ระบบรัฐสภา ราชาธิปไตยกึ่งภายใต้รัฐธรรมนูญ [6]• กษัตริย์ สมเด็จพระราชาธิบดีมุฮัมมัดที่ 6• นายกรัฐมนตรี อะซีซ อะค็อนนูชสภานิติบัญญัติรัฐสภา• สภาสูงราชมนตรีสภา• สภาล่างสภาผู้แทนราษฎรก่อตั้ง• ราชวงศ์อิดรีซิด 788• ราชวงศ์อะละวี (ราชวงศ์ปัจจุบัน) 1631• ก่อตั้งรัฐในอารักขา 30 มีนาคม ค. ศ.
พรีวิว ฟุตบอลโลก 2022 : โมร็อกโก พบ สเปน - True4U
ประเทศโมร็อกโก - วิกิพีเดีย
ต้องเน้น! สเปน ไม่ง่าย "โมราต้า" ค้ำหน้าดวล โมร็อกโก 16ทีม ฟุตบอล
โมร็อกโก ตลาดใหม่ในแอฟริกาเหนือประเทศโมร็อกโกหรือชื่ออย่างเป็นทางการว่าราชอาณาจักรโมร็อกโก (Kingdom of Morocco) ตั้งอยู่ในภาคตะวันตกเฉียงเหนือของทวีปแอฟริกา โมร็อกโกมีการปกครองในระบอบประชาธิปไตยโดยมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขเหมือนกับประเทศไทย ประชากรส่วนใหญ่ของโมร็อกโกไม่ได้เป็นชนชาตินิกรอยด์หรือแอฟริกันนิโกรเหมือนกับประเทศอื่นๆ ในแอฟริกา แต่เป็นชนชาติคอเคซอยด์ซึ่งเป็นชาวอาหรับ ชาวเบอร์เบอร์ และชาวยุโรป อย่างฝรั่งเศส และสเปน เป็นต้น ประชากรมากกว่าครึ่งหนึ่งของประเทศอาศัยอยู่ในตัวเมือง ส่วนใหญ่อยู่ในวัยทำงาน และช่วงอายุน้อยกว่า 25 ปี ประเทศโมร็อกโกหรือชื่ออย่างเป็นทางการว่าราชอาณาจักรโมร็อกโก (Kingdom of Morocco) ตั้งอยู่ในภาคตะวันตกเฉียงเหนือของทวีปแอฟริกา โมร็อกโกมีการปกครองในระบอบประชาธิปไตยโดยมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขเหมือนกับประเทศไทย ประชากรส่วนใหญ่ของโมร็อกโกไม่ได้เป็นชนชาตินิกรอยด์หรือแอฟริกันนิโกรเหมือนกับประเทศอื่นๆ ในแอฟริกา แต่เป็นชนชาติคอเคซอยด์ซึ่งเป็นชาวอาหรับ ชาวเบอร์เบอร์ และชาวยุโรป อย่างฝรั่งเศส และสเปน เป็นต้น ประชากรมากกว่าครึ่งหนึ่งของประเทศอาศัยอยู่ในตัวเมือง ส่วนใหญ่อยู่ในวัยทำงาน และช่วงอายุน้อยกว่า 25 ปี ประเทศโมร็อกโกเป็นประเทศอิสลาม (Muslim Country) ที่มีความแตกต่างจากประเทศอิสลามอื่น ตรงที่ไม่ได้รับผลกระทบจากปรากฏการณ์ Arab spring เนื่องจากโมฮัมมัดที่ 6 (Mohamed VI) กษัตริย์ของโมร็อกโก ได้ร่างรัฐธรรมนูญใหม่ร่วมกับภาคประชาชน ซึ่งเป็นการเปลี่ยนอย่างมากในระบบการปกครอง การให้อำนาจแก่ประชาชน รวมไปถึงอำนาจของนายกรัฐมนตรี นอกจากนี้ ธรรมนูญใหม่นี้ยังยกระดับให้เกิดความเสมอภาคทางเพศ และการให้เสรีภาพเพิ่มขึ้นแก่ประชาชนโมร็อกโก โมร็อกโกมีการพัฒนาทางภาคอุตสาหกรรมและภาคโครงสร้างพื้นฐานต่อเนื่อง เห็นได้จากการสร้างท่าเรือใหม่ และการเปิดเขตการค้าเสรีที่ Tangier ซึ่งช่วยเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันให้แก่ประเทศ โมร็อกโกต้องการที่จะขยายการผลิตพลังงานทดแทน โดยมีเป้าหมายที่จะให้ใช้พลังงานทดแทนคิดเป็นร้อยละ 40 ของการใช้ไฟฟ้าของประเทศภายในปี 2563 Gibraltar ซึ่งเป็นเส้นทางขนส่งสินค้าไปยังประเทศต่างๆ ในทวีปยุโรปและสหรัฐอเมริกา ทำให้โมร็อกโกเหมาะสมต่อการเป็นศูนย์กลางการขนส่งและกระจายสินค้า ประกอบกับโมร็อกโกได้รับสิทธิพิเศษทางการค้าจากหลายประเทศจากการเป็นสมาชิกกลุ่ม Arab Maghreb Union (ประกอบด้วยสมาชิก 5 ประเทศ คือ อัลจีเรีย ลิเบีย โมร็อกโก มอริเตเนีย และตูนิเซีย ซึ่งล้วนตั้งอยู่ในแถบแอฟริกาเหนือ) การจัดทำ FTA ในลักษณะทวิภาคีกับสหรัฐอเมริกา อียิปต์ ตุรกี ซาอุดิอาระเบีย และจอร์แดน นอกจากนั้นยังมีการจัดทำความร่วมมือด้านการค้ากับกลุ่มสหภาพยุโรป (EU) ภายใต้ European Union Association Agreement จากสิทธิประโยชน์ต่างๆ ที่ได้รับจะช่วยเกื้อหนุนให้โมร็อกโกสามารถขยายการค้าไปยังตลาดเหล่านี้ได้เพิ่มขึ้น โมร็อกโกนั้นมีความเจริญมากกว่าประเทศส่วนใหญ่ในทวีปแอฟริกา บ้านเมืองและตึกต่างๆ ในโมร็อกโกนั้นมีความทันสมัยมาก เนื่องจากประเทศฝรั่งเศสและสเปนเคยยึดครองโมร็อกโก จึงทำให้ระบอบการเมืองการปกครอง การศึกษา สาธารณสุข และการคมนาคม ถูกวางรากฐานไว้เป็นอย่างดี สำหรับธุรกิจไทยที่มีศักยภาพที่จะเข้าไปลงทุนในโมร็อกโก ได้แก่ อุตสาหกรรมผลิตอาหารทะเล เนื่องจากโมร็อกโกมีทรัพยากรทางทะเลที่อุดมสมบูรณ์ รวมถึง อุตสาหกรรมท่องเที่ยวและบริการที่เกี่ยวข้อง อาทิ โรงแรม ร้านอาหาร และสปา วัฒนธรรมการรับประทานอาหาร วัฒนธรรมการปรุงอาหารของโมร็อกโกมีความหลากหลาย อันเป็นผลมาจากการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมระหว่างชนชาติ แต่อย่างไรก็ดี เรายังคงเห็นวัฒนธรรมชนชาวบาร์เบอร์ (Berbers) สะท้อนได้จากอาหารประเภท Tagine และ Couscous ที่ยังคงมีให้เห็นในทุกมื้ออาหาร การรุกรานของชาวอาหรับก็ทำให้เกิดการนำเข้าเครื่องเทศ ถั่ว ผลไม้แห้ง เข้ามาในโมร็อกโก ขณะที่พวก Moors ได้นำเอาน้ำมันมะกอก น้ำมะกอก และน้ำส้ม Citrus เข้ามาในโมร็อกโก สำหรับประเทศฝรั่งเศสซึ่งเคยปกครองโมร็อกโก แม้จะเป็นช่วงเวลาเพียงสั้นๆ ก็ตาม ก็ยังทิ้งวัฒนธรรมการดื่มไวน์ pastries หรือร้านกาแฟ ไว้เช่นกัน วัฒนธรรมการรับประทานอาหารถือเป็นส่วนสำคัญสำหรับชาวโมร็อกโก ทั้งนี้ ชาวโมร็อกโกยังไม่คุ้นชินกับการรับประทานอาหารพร้อมปรุง (ready-prepared foods) แต่อย่างไรก็ตาม อิทธิพลของชาวตะวันตกซึ่งกำลังค่อยๆ เปลี่ยนรูปร่างของสังคมโมร็อกโก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในหมู่วัยรุ่นและกลุ่มคนรุ่นใหม่ ซึ่งไม่มีเวลาพอที่จะปรุงอาหารรับประทานเอง อาหารพร้อมปรุง (ready-prepared foods) จึงเป็นทางเลือกอันดับต้น ในชั่วโมงเร่งด่วนเช่นช่วงเวลาพักกลางวัน ซึ่งในบริษัทนำสมัย (modern company) จะกำหนดให้มีระยะเวลาพักกลางวันที่สั้นกว่า การรับประทานอาหารนอกบ้าน ปกติแล้วชาวโมร็อกโกไม่นิยมรับประทานอาหารนอกบ้าน อย่างไรก็ดี ขณะที่ประเทศกำลังเปลี่ยนแปลงไป คนหนุ่มสาวรุ่นใหม่มีรายได้ดีขึ้น และเริ่มเลียนแบบชาติยุโรปในเรื่องพฤติกรรมการรับประทานอาหารนอกบ้าน ทางเลือกที่ได้รับความที่นิยมมากสุดในการรับประทานอาหารนอกบ้านก็คือฟาสต์ฟู้ด โดยเฉพาะแมคโดนัลด์ อย่างไรก็ดี ชาวโมร็อกโกที่ฐานะดีเริ่มไปร้านอาหารระดับหรูที่กระจายอยู่ในทุกเมืองใหญ่ ประเภทของอาหารที่จำหน่ายในร้านอาหารเหล่านี้แตกต่างกันอย่างมาก ไล่เรียงตั้งแต่อาหารพื้นเมืองของชาติต่างๆ ไปจนถึงอาหารพื้นเมืองของโมร็อกโก ทางเลือกในการรับประทานในร้านอาหารแทบจะจำกัดตามระดับรายได้ ชาวโมร็อกโกค่อนข้างเป็นพวกวัตถุนิยมและโอ้อวดฐานะ หากมีกำลังจ่ายได้ ก็จะเข้าร้านอาหารที่ราคาแพงกว่าโดยหวังจะให้คนที่อยู่ในสังคมเดียวกันได้พบเห็น โมร็อกโกที่มีไลฟ์สไตล์แบบสากลที่ซึมซับค่านิยมวัฒนธรรมตะวันตก มีร้านอาหารซูชิมากมายในเมืองใหญ่ๆ อย่างคาซาบลังกา ราบัต มาร์ราคิช และแทงเจียร์ เทรนด์รองลงมาที่ขยายตัวอย่างรวดเร็วคือชาวโมร็อกโกเริ่มลอกเลียนแบบกระแสรักสุขภาพของตะวันตก โดยเห็นได้จากความนิยมสลัดบาร์ที่เพิ่งเปิดให้บริการ ซึ่งถือว่าเหมาะสมเป็นอย่างดีกับพฤติกรรมใหม่ที่ใช้เวลาพักเที่ยงในที่ทำงานน้อยลง สลัดบาร์เหล่านี้ล้วนตั้งอยู่ใกล้ศูนย์กลางธุรกิจของเมือง และให้บริการคนทำงานที่มีเวลาน้อย ตลาดฟาสต์ฟู้ดในโมร็อกโกมีขนาดใหญ่ และมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง พฤติกรรมการบริโภคของว่าง ถือเป็นเรื่องปกติสำหรับชาวโมร็อกโกในการรับประทานของว่างระหว่างมื้อในปริมาณที่มากเทียบได้กับในวัฒนธรรมตะวันตก แต่ความแตกต่างคืออาหารที่รับประทาน ชาวโมร็อกโกมักจะเลือกพักจิบน้ำชามากกว่าพักรับประทานของว่าง โดยจะดื่มชากับขนมอบโมร็อกโก เช่น กาเซลล์ ฮอร์น พาสติลี (แป้งแผ่นบางอบสอดไส้ถั่วตัดและเพิ่มความหวานด้วยน้ำเชื่อมหรือน้ำผึ้ง) บรีวัต บิล ลุซ (ขนมอบสอดไส้อัลมอนด์) หรือฟักกัส (มาการอง) ของขบเคี้ยวของโมร็อกโกจะเชื่อมโยงกับปฏิสัมพันธ์ทางสังคม และไม่ได้เป็นสิ่งที่รับประทานเพียงคนเดียวในช่วงที่ “ยุ่งวุ่นวาย” อีกทั้งยังถือเป็นเรื่องไม่สุภาพหากไม่เสิร์ฟชาและขนมจำพวกของว่างให้แขกผู้มาเยือน ของว่างเหล่านี้รับประทานกันในช่วงสายและ/หรือบ่ายแก่ แต่ก็มีเทรนด์ใหม่เกิดขึ้น โดยพวกหนุ่มสาว (วัยเรียนและมหาวิทยาลัย) หลงใหลของว่างสไตล์ตะวันตก ซึ่งรอบๆ สถานศึกษาจะมีรถเข็นจำนวนมากขายของว่างที่ไม่ใช่ขนมแบบดั้งเดิมแต่เป็นพวกช็อกโกแลตบาร์ (เช่น มาร์ส สนิกเกอร์ส คิทแคท และทวิกซ์) หมากฝรั่ง และเมล็ดพืชต่างๆ (เมล็ดทานตะวัน ข้าวโพดคั่ว หรืองา) เทรนด์ใหม่อีกอย่างหนึ่งคือการดื่มแอลกอฮอล์เพียงเล็กน้อยแบบตะวันตก (ฝรั่งเศส) เพื่อให้เจริญอาหาร ครอบครัวหัวทันสมัยรับเอาพฤติกรรมสไตล์ฝรั่งเศสที่เป็นการดื่มไวน์หรือเบียร์แกล้มกับมันฝรั่งทอด ถั่ว และมะกอก โดยถั่วและมะกอกโดยทั่วไปเป็นแบรนด์ท้องถิ่น ส่วนมันฝรั่งทอดเป็นแบรนด์ต่างชาติ (เช่น พริงเกิลส์ เลย์ หรือลอเรนซ์) ซึ่งแบรนด์ต่างชาติบางรายเริ่มส่งผลกระทบต่อแบรนด์ท้องถิ่นในตลาดถั่วบรรจุสำเร็จ บรรจุภัณฑ์และผลิตภัณฑ์ที่ดูดีกว่าทำให้เป็นตัวเลือกที่ดีกว่าแบรนด์ท้องถิ่น การรับประทานผลไม้เป็นของว่างไม่ได้ปฏิบัติกันทั่วไป ทว่าที่พบเห็นได้ทั่วไปคือการดื่มน้ำผลไม้แทนของขบเคี้ยวโดยส่วนใหญ่จะซื้อที่มาห์ลาบา (ร้านขายนม) อีกทั้งยังมีของว่างแบบดั้งเดิมที่ยังคงได้รับความนิยมสูงโดยเฉพาะอย่างยิ่งในหมู่เด็กนักเรียน นั่นคือ แซนด์วิชชีสสเปรด ซึ่งเป็นชีสที่ทาบนขนมปังกลมแบบฉบับของโมร็อกโก ทัศนคติต่อสุขภาพ การใส่ใจในสุขภาพที่ดีในโมร็อกโกแตกต่างกันไปตามเพศและสถานะทางสังคมเศรษฐกิจ ผู้ชายมักใส่ใจเรื่องการมีสุขภาพดีเป็นอย่างมาก แม้ว่าจะเน้นเพียงกีฬามากกว่าการควบคุมอาหารก็ตาม ผู้ชายโมร็อกโกทุกวัยจากทุกสถานะเศรษฐกิจออกกำลังกายเป็นประจำ ภาวะน้ำหนักเกินพบเห็นได้น้อยมากในหมู่ผู้ชายโมร็อกโกเมื่อเทียบกับผู้ชายในชาติยุโรปอื่น อย่างไรก็ดี พวกเขาก็ไม่ได้หมกมุ่นกับสิ่งที่ตนเองรับประทานเข้าไปนัก และมีความสุขที่ได้ออกกำลังกายเป็นประจำควบคู่ไปกับการรับประทานอาหารปกติ ส่วนผู้หญิงนั้นทัศนคติต่อการมีสุขภาพดีซับซ้อนกว่า ผู้หญิงท้องถิ่นวัยกลางคนและสูงวัยจากสถานะทางสังคมเศรษฐกิจที่ต่ำกว่าไม่ได้สนใจเรื่องประโยชน์ของการมีสุขภาพดีเป็นพิเศษ โดยคนกลุ่มนี้ไม่ได้จริงจังในการพัฒนาสุขภาพของตนเอง เช่น เข้ายิมหรือรับประทานผักมากขึ้นและลดน้ำตาล ผู้หญิงที่มีสถานะทางสังคมสูงกว่าออกกำลังบ่อย ซึ่งอาจมองกันว่าผู้หญิงกลุ่มนี้ห่วงใยในสุขภาพเป็นอย่างมาก แต่ความจริงไม่ได้เป็นเช่นนั้น ยกตัวอย่างเช่น การเข้ายิมเป็นประจำเป็นการเข้าสังคมมากกว่าจะเป็นเรื่องอื่น ผู้หญิงเหล่านี้อยากให้คนอื่นเห็นตัวเองในยิมและชอบคบหาสมาคมกับคนอื่นในยิม หากเหตุผลนี้ช่วยในเรื่องการพัฒนาสุขภาพของพวกเขาด้วยก็ถือเป็นโบนัส อย่างไรก็ดี ผู้หญิงเหล่านี้ก็คำนึงถึงเรื่องอาหารที่ทำที่บ้าน และจะพยายามอย่างมากเพื่อให้แน่ใจว่าจัดอาหารเพื่อสุขภาพแบบสมดุลให้กับสมาชิกในครอบครัว หญิงโสดหรือหญิงที่แต่งงานแล้วแต่ยังไม่มีลูกก็เริ่มหันมาสนใจเรื่องสุขภาพโดยทั่วไปมากขึ้นด้วยการเข้ายิมบ่อยๆ และใส่ใจกับการบริโภคอาหารในแต่ละวันเป็นพิเศษ เนื่องจากเวลาที่จำกัดจากการใช้ชีวิตแบบเร่งรีบ พวกเขาจึงเริ่มซื้ออาหารปรุงสำเร็จเพื่อสุขภาพในซูเปอร์มาร์เก็ต จากสถิติการค้าอาหารระหว่างไทย-โมร็อกโก ล่าสุดเดือน ม.
3, No. 4, (1925) ↑ Source Wikipedia; LLC Books (June 2010). Languages of Morocco: Spanish Language, Arabic Language, Berber Languages, Central Morocco Tamazight, Moroccan Arabic, Tashelhiyt Language. ISBN 978-1-157-60671-0. ↑ Pending resolution of the Western Sahara conflict. ↑ "POPULATION LÉGALE DES RÉGIONS, PROVINCES, PRÉFECTURES, MUNICIPALITÉS, ARRONDISSEMENTS ET COMMUNES DU ROYAUME D'APRÈS LES RÉSULTATS DU RGPH 2014" (ภาษาอาหรับ และ ฝรั่งเศส). High Commission for Planning, Morocco. 8 April 2015. สืบค้นเมื่อ 29 September 2017.
ผลบอลโลก 2022 วันที่ 12 : ญี่ปุ่นลิ่วดวลโครเอเชีย, โมร็อกโกได้เจอ
ค. -พ. 2557 พบว่าไทยส่งออกสินค้าเกษตร อาหาร และเครื่องดื่มไปโมร็อกโก มูลค่า 113. 66 ล้านบาท หดตัวลงจากปีที่แล้วช่วงเดียวกันร้อยละ 35 ในปี 2556 ไทยส่งออกไปมูลค่าทั้งสิ้น 174. 73 ล้านบาท ขณะที่โมร็อกโกนำเข้าสินค้าอะหารแต่ละปีประมาณ 141, 500 ล้านบาท คู่ค้าสำคัญ 5 อันดับแรก คือ บราซิล ฝรั่งเศส อาร์เจนตินา แคนาดา และเยอรมนี สินค้านำเข้าที่สำคัญ คือ ข้าวสาลี ข้าวโพด น้ำมันถั่วเหลือง น้ำตาลทราย ใบชา กาแฟ ส่วนสินค้าที่นำเข้าจากไทยที่สำคัญ คือ ทูน่ากระป๋อง สับปะรดกระป๋อง ข้าวโพดหวานแปรรูป ครีมเทียม ดังที่กล่าวไปแล้วว่าโมร็อกโกกำลังอยู่ในช่วงเริ่มต้นของการบริโภคอาหารสำเร็จรูป ดังนั้นหากผู้ประกอบการไทยจะเข้าไปลองสำรวจลู่ทางและสร้างการรู้จักสินค้าตั้งแต่เริ่มต้น ก็น่าจะมีโอกาสครองใจชาวโมร็อกโกได้ไม่ยากนัก เอกสารอ้างอิง: สถาบันอาหาร.
ชีวิตใหม่ไม่สมหวังบนฝั่งสเปน - Thaipost.net
ตีแผ่ปัญหาพิพาทระหว่างโมร็อกโกและโปลิสซาริโอ (polisario) - รัฐสภา