สืบค้นเมื่อ 9 January 2013. ↑ "Morocco Population, 1960-2019 - knoema. com". Knoema. 2019. สืบค้นเมื่อ 2 April 2020. ↑ "Rgbh 2014" (ภาษาฝรั่งเศส). HCP. 2014. สืบค้นเมื่อ 17 October 2019. ↑ 9. 0 9. 1 9. 2 9. 3 "Morocco". IMF. ↑ Africa's Development Dynamics 2018:Growth, Jobs and Inequalities. AUC/OECD.
โมร็อกโก ตลาดใหม่ในแอฟริกาเหนือประเทศโมร็อกโกหรือชื่ออย่างเป็นทางการว่าราชอาณาจักรโมร็อกโก (Kingdom of Morocco) ตั้งอยู่ในภาคตะวันตกเฉียงเหนือของทวีปแอฟริกา โมร็อกโกมีการปกครองในระบอบประชาธิปไตยโดยมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขเหมือนกับประเทศไทย ประชากรส่วนใหญ่ของโมร็อกโกไม่ได้เป็นชนชาตินิกรอยด์หรือแอฟริกันนิโกรเหมือนกับประเทศอื่นๆ ในแอฟริกา แต่เป็นชนชาติคอเคซอยด์ซึ่งเป็นชาวอาหรับ ชาวเบอร์เบอร์ และชาวยุโรป อย่างฝรั่งเศส และสเปน เป็นต้น ประชากรมากกว่าครึ่งหนึ่งของประเทศอาศัยอยู่ในตัวเมือง ส่วนใหญ่อยู่ในวัยทำงาน และช่วงอายุน้อยกว่า 25 ปี ประเทศโมร็อกโกหรือชื่ออย่างเป็นทางการว่าราชอาณาจักรโมร็อกโก (Kingdom of Morocco) ตั้งอยู่ในภาคตะวันตกเฉียงเหนือของทวีปแอฟริกา โมร็อกโกมีการปกครองในระบอบประชาธิปไตยโดยมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขเหมือนกับประเทศไทย ประชากรส่วนใหญ่ของโมร็อกโกไม่ได้เป็นชนชาตินิกรอยด์หรือแอฟริกันนิโกรเหมือนกับประเทศอื่นๆ ในแอฟริกา แต่เป็นชนชาติคอเคซอยด์ซึ่งเป็นชาวอาหรับ ชาวเบอร์เบอร์ และชาวยุโรป อย่างฝรั่งเศส และสเปน เป็นต้น ประชากรมากกว่าครึ่งหนึ่งของประเทศอาศัยอยู่ในตัวเมือง ส่วนใหญ่อยู่ในวัยทำงาน และช่วงอายุน้อยกว่า 25 ปี ประเทศโมร็อกโกเป็นประเทศอิสลาม (Muslim Country) ที่มีความแตกต่างจากประเทศอิสลามอื่น ตรงที่ไม่ได้รับผลกระทบจากปรากฏการณ์ Arab spring เนื่องจากโมฮัมมัดที่ 6 (Mohamed VI) กษัตริย์ของโมร็อกโก ได้ร่างรัฐธรรมนูญใหม่ร่วมกับภาคประชาชน ซึ่งเป็นการเปลี่ยนอย่างมากในระบบการปกครอง การให้อำนาจแก่ประชาชน รวมไปถึงอำนาจของนายกรัฐมนตรี นอกจากนี้ ธรรมนูญใหม่นี้ยังยกระดับให้เกิดความเสมอภาคทางเพศ และการให้เสรีภาพเพิ่มขึ้นแก่ประชาชนโมร็อกโก โมร็อกโกมีการพัฒนาทางภาคอุตสาหกรรมและภาคโครงสร้างพื้นฐานต่อเนื่อง เห็นได้จากการสร้างท่าเรือใหม่ และการเปิดเขตการค้าเสรีที่ Tangier ซึ่งช่วยเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันให้แก่ประเทศ โมร็อกโกต้องการที่จะขยายการผลิตพลังงานทดแทน โดยมีเป้าหมายที่จะให้ใช้พลังงานทดแทนคิดเป็นร้อยละ 40 ของการใช้ไฟฟ้าของประเทศภายในปี 2563 Gibraltar ซึ่งเป็นเส้นทางขนส่งสินค้าไปยังประเทศต่างๆ ในทวีปยุโรปและสหรัฐอเมริกา ทำให้โมร็อกโกเหมาะสมต่อการเป็นศูนย์กลางการขนส่งและกระจายสินค้า ประกอบกับโมร็อกโกได้รับสิทธิพิเศษทางการค้าจากหลายประเทศจากการเป็นสมาชิกกลุ่ม Arab Maghreb Union (ประกอบด้วยสมาชิก 5 ประเทศ คือ อัลจีเรีย ลิเบีย โมร็อกโก มอริเตเนีย และตูนิเซีย ซึ่งล้วนตั้งอยู่ในแถบแอฟริกาเหนือ) การจัดทำ FTA ในลักษณะทวิภาคีกับสหรัฐอเมริกา อียิปต์ ตุรกี ซาอุดิอาระเบีย และจอร์แดน นอกจากนั้นยังมีการจัดทำความร่วมมือด้านการค้ากับกลุ่มสหภาพยุโรป (EU) ภายใต้ European Union Association Agreement จากสิทธิประโยชน์ต่างๆ ที่ได้รับจะช่วยเกื้อหนุนให้โมร็อกโกสามารถขยายการค้าไปยังตลาดเหล่านี้ได้เพิ่มขึ้น โมร็อกโกนั้นมีความเจริญมากกว่าประเทศส่วนใหญ่ในทวีปแอฟริกา บ้านเมืองและตึกต่างๆ ในโมร็อกโกนั้นมีความทันสมัยมาก เนื่องจากประเทศฝรั่งเศสและสเปนเคยยึดครองโมร็อกโก จึงทำให้ระบอบการเมืองการปกครอง การศึกษา สาธารณสุข และการคมนาคม ถูกวางรากฐานไว้เป็นอย่างดี สำหรับธุรกิจไทยที่มีศักยภาพที่จะเข้าไปลงทุนในโมร็อกโก ได้แก่ อุตสาหกรรมผลิตอาหารทะเล เนื่องจากโมร็อกโกมีทรัพยากรทางทะเลที่อุดมสมบูรณ์ รวมถึง อุตสาหกรรมท่องเที่ยวและบริการที่เกี่ยวข้อง อาทิ โรงแรม ร้านอาหาร และสปา วัฒนธรรมการรับประทานอาหาร วัฒนธรรมการปรุงอาหารของโมร็อกโกมีความหลากหลาย อันเป็นผลมาจากการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมระหว่างชนชาติ แต่อย่างไรก็ดี เรายังคงเห็นวัฒนธรรมชนชาวบาร์เบอร์ (Berbers) สะท้อนได้จากอาหารประเภท Tagine และ Couscous ที่ยังคงมีให้เห็นในทุกมื้ออาหาร การรุกรานของชาวอาหรับก็ทำให้เกิดการนำเข้าเครื่องเทศ ถั่ว ผลไม้แห้ง เข้ามาในโมร็อกโก ขณะที่พวก Moors ได้นำเอาน้ำมันมะกอก น้ำมะกอก และน้ำส้ม Citrus เข้ามาในโมร็อกโก สำหรับประเทศฝรั่งเศสซึ่งเคยปกครองโมร็อกโก แม้จะเป็นช่วงเวลาเพียงสั้นๆ ก็ตาม ก็ยังทิ้งวัฒนธรรมการดื่มไวน์ pastries หรือร้านกาแฟ ไว้เช่นกัน วัฒนธรรมการรับประทานอาหารถือเป็นส่วนสำคัญสำหรับชาวโมร็อกโก ทั้งนี้ ชาวโมร็อกโกยังไม่คุ้นชินกับการรับประทานอาหารพร้อมปรุง (ready-prepared foods) แต่อย่างไรก็ตาม อิทธิพลของชาวตะวันตกซึ่งกำลังค่อยๆ เปลี่ยนรูปร่างของสังคมโมร็อกโก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในหมู่วัยรุ่นและกลุ่มคนรุ่นใหม่ ซึ่งไม่มีเวลาพอที่จะปรุงอาหารรับประทานเอง อาหารพร้อมปรุง (ready-prepared foods) จึงเป็นทางเลือกอันดับต้น ในชั่วโมงเร่งด่วนเช่นช่วงเวลาพักกลางวัน ซึ่งในบริษัทนำสมัย (modern company) จะกำหนดให้มีระยะเวลาพักกลางวันที่สั้นกว่า การรับประทานอาหารนอกบ้าน ปกติแล้วชาวโมร็อกโกไม่นิยมรับประทานอาหารนอกบ้าน อย่างไรก็ดี ขณะที่ประเทศกำลังเปลี่ยนแปลงไป คนหนุ่มสาวรุ่นใหม่มีรายได้ดีขึ้น และเริ่มเลียนแบบชาติยุโรปในเรื่องพฤติกรรมการรับประทานอาหารนอกบ้าน ทางเลือกที่ได้รับความที่นิยมมากสุดในการรับประทานอาหารนอกบ้านก็คือฟาสต์ฟู้ด โดยเฉพาะแมคโดนัลด์ อย่างไรก็ดี ชาวโมร็อกโกที่ฐานะดีเริ่มไปร้านอาหารระดับหรูที่กระจายอยู่ในทุกเมืองใหญ่ ประเภทของอาหารที่จำหน่ายในร้านอาหารเหล่านี้แตกต่างกันอย่างมาก ไล่เรียงตั้งแต่อาหารพื้นเมืองของชาติต่างๆ ไปจนถึงอาหารพื้นเมืองของโมร็อกโก ทางเลือกในการรับประทานในร้านอาหารแทบจะจำกัดตามระดับรายได้ ชาวโมร็อกโกค่อนข้างเป็นพวกวัตถุนิยมและโอ้อวดฐานะ หากมีกำลังจ่ายได้ ก็จะเข้าร้านอาหารที่ราคาแพงกว่าโดยหวังจะให้คนที่อยู่ในสังคมเดียวกันได้พบเห็น โมร็อกโกที่มีไลฟ์สไตล์แบบสากลที่ซึมซับค่านิยมวัฒนธรรมตะวันตก มีร้านอาหารซูชิมากมายในเมืองใหญ่ๆ อย่างคาซาบลังกา ราบัต มาร์ราคิช และแทงเจียร์ เทรนด์รองลงมาที่ขยายตัวอย่างรวดเร็วคือชาวโมร็อกโกเริ่มลอกเลียนแบบกระแสรักสุขภาพของตะวันตก โดยเห็นได้จากความนิยมสลัดบาร์ที่เพิ่งเปิดให้บริการ ซึ่งถือว่าเหมาะสมเป็นอย่างดีกับพฤติกรรมใหม่ที่ใช้เวลาพักเที่ยงในที่ทำงานน้อยลง สลัดบาร์เหล่านี้ล้วนตั้งอยู่ใกล้ศูนย์กลางธุรกิจของเมือง และให้บริการคนทำงานที่มีเวลาน้อย ตลาดฟาสต์ฟู้ดในโมร็อกโกมีขนาดใหญ่ และมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง พฤติกรรมการบริโภคของว่าง ถือเป็นเรื่องปกติสำหรับชาวโมร็อกโกในการรับประทานของว่างระหว่างมื้อในปริมาณที่มากเทียบได้กับในวัฒนธรรมตะวันตก แต่ความแตกต่างคืออาหารที่รับประทาน ชาวโมร็อกโกมักจะเลือกพักจิบน้ำชามากกว่าพักรับประทานของว่าง โดยจะดื่มชากับขนมอบโมร็อกโก เช่น กาเซลล์ ฮอร์น พาสติลี (แป้งแผ่นบางอบสอดไส้ถั่วตัดและเพิ่มความหวานด้วยน้ำเชื่อมหรือน้ำผึ้ง) บรีวัต บิล ลุซ (ขนมอบสอดไส้อัลมอนด์) หรือฟักกัส (มาการอง) ของขบเคี้ยวของโมร็อกโกจะเชื่อมโยงกับปฏิสัมพันธ์ทางสังคม และไม่ได้เป็นสิ่งที่รับประทานเพียงคนเดียวในช่วงที่ “ยุ่งวุ่นวาย” อีกทั้งยังถือเป็นเรื่องไม่สุภาพหากไม่เสิร์ฟชาและขนมจำพวกของว่างให้แขกผู้มาเยือน ของว่างเหล่านี้รับประทานกันในช่วงสายและ/หรือบ่ายแก่ แต่ก็มีเทรนด์ใหม่เกิดขึ้น โดยพวกหนุ่มสาว (วัยเรียนและมหาวิทยาลัย) หลงใหลของว่างสไตล์ตะวันตก ซึ่งรอบๆ สถานศึกษาจะมีรถเข็นจำนวนมากขายของว่างที่ไม่ใช่ขนมแบบดั้งเดิมแต่เป็นพวกช็อกโกแลตบาร์ (เช่น มาร์ส สนิกเกอร์ส คิทแคท และทวิกซ์) หมากฝรั่ง และเมล็ดพืชต่างๆ (เมล็ดทานตะวัน ข้าวโพดคั่ว หรืองา) เทรนด์ใหม่อีกอย่างหนึ่งคือการดื่มแอลกอฮอล์เพียงเล็กน้อยแบบตะวันตก (ฝรั่งเศส) เพื่อให้เจริญอาหาร ครอบครัวหัวทันสมัยรับเอาพฤติกรรมสไตล์ฝรั่งเศสที่เป็นการดื่มไวน์หรือเบียร์แกล้มกับมันฝรั่งทอด ถั่ว และมะกอก โดยถั่วและมะกอกโดยทั่วไปเป็นแบรนด์ท้องถิ่น ส่วนมันฝรั่งทอดเป็นแบรนด์ต่างชาติ (เช่น พริงเกิลส์ เลย์ หรือลอเรนซ์) ซึ่งแบรนด์ต่างชาติบางรายเริ่มส่งผลกระทบต่อแบรนด์ท้องถิ่นในตลาดถั่วบรรจุสำเร็จ บรรจุภัณฑ์และผลิตภัณฑ์ที่ดูดีกว่าทำให้เป็นตัวเลือกที่ดีกว่าแบรนด์ท้องถิ่น การรับประทานผลไม้เป็นของว่างไม่ได้ปฏิบัติกันทั่วไป ทว่าที่พบเห็นได้ทั่วไปคือการดื่มน้ำผลไม้แทนของขบเคี้ยวโดยส่วนใหญ่จะซื้อที่มาห์ลาบา (ร้านขายนม) อีกทั้งยังมีของว่างแบบดั้งเดิมที่ยังคงได้รับความนิยมสูงโดยเฉพาะอย่างยิ่งในหมู่เด็กนักเรียน นั่นคือ แซนด์วิชชีสสเปรด ซึ่งเป็นชีสที่ทาบนขนมปังกลมแบบฉบับของโมร็อกโก ทัศนคติต่อสุขภาพ การใส่ใจในสุขภาพที่ดีในโมร็อกโกแตกต่างกันไปตามเพศและสถานะทางสังคมเศรษฐกิจ ผู้ชายมักใส่ใจเรื่องการมีสุขภาพดีเป็นอย่างมาก แม้ว่าจะเน้นเพียงกีฬามากกว่าการควบคุมอาหารก็ตาม ผู้ชายโมร็อกโกทุกวัยจากทุกสถานะเศรษฐกิจออกกำลังกายเป็นประจำ ภาวะน้ำหนักเกินพบเห็นได้น้อยมากในหมู่ผู้ชายโมร็อกโกเมื่อเทียบกับผู้ชายในชาติยุโรปอื่น อย่างไรก็ดี พวกเขาก็ไม่ได้หมกมุ่นกับสิ่งที่ตนเองรับประทานเข้าไปนัก และมีความสุขที่ได้ออกกำลังกายเป็นประจำควบคู่ไปกับการรับประทานอาหารปกติ ส่วนผู้หญิงนั้นทัศนคติต่อการมีสุขภาพดีซับซ้อนกว่า ผู้หญิงท้องถิ่นวัยกลางคนและสูงวัยจากสถานะทางสังคมเศรษฐกิจที่ต่ำกว่าไม่ได้สนใจเรื่องประโยชน์ของการมีสุขภาพดีเป็นพิเศษ โดยคนกลุ่มนี้ไม่ได้จริงจังในการพัฒนาสุขภาพของตนเอง เช่น เข้ายิมหรือรับประทานผักมากขึ้นและลดน้ำตาล ผู้หญิงที่มีสถานะทางสังคมสูงกว่าออกกำลังบ่อย ซึ่งอาจมองกันว่าผู้หญิงกลุ่มนี้ห่วงใยในสุขภาพเป็นอย่างมาก แต่ความจริงไม่ได้เป็นเช่นนั้น ยกตัวอย่างเช่น การเข้ายิมเป็นประจำเป็นการเข้าสังคมมากกว่าจะเป็นเรื่องอื่น ผู้หญิงเหล่านี้อยากให้คนอื่นเห็นตัวเองในยิมและชอบคบหาสมาคมกับคนอื่นในยิม หากเหตุผลนี้ช่วยในเรื่องการพัฒนาสุขภาพของพวกเขาด้วยก็ถือเป็นโบนัส อย่างไรก็ดี ผู้หญิงเหล่านี้ก็คำนึงถึงเรื่องอาหารที่ทำที่บ้าน และจะพยายามอย่างมากเพื่อให้แน่ใจว่าจัดอาหารเพื่อสุขภาพแบบสมดุลให้กับสมาชิกในครอบครัว หญิงโสดหรือหญิงที่แต่งงานแล้วแต่ยังไม่มีลูกก็เริ่มหันมาสนใจเรื่องสุขภาพโดยทั่วไปมากขึ้นด้วยการเข้ายิมบ่อยๆ และใส่ใจกับการบริโภคอาหารในแต่ละวันเป็นพิเศษ เนื่องจากเวลาที่จำกัดจากการใช้ชีวิตแบบเร่งรีบ พวกเขาจึงเริ่มซื้ออาหารปรุงสำเร็จเพื่อสุขภาพในซูเปอร์มาร์เก็ต จากสถิติการค้าอาหารระหว่างไทย-โมร็อกโก ล่าสุดเดือน ม.
สเปนส่งทหารคุมผู้อพยพ หลัง 8,000 คนบุกเข้าเขตปกครองตนเองเซวตา
โมร็อกโก VS สเปน: พรีวิว ฟุตบอลโลก 2022 (ช่องถ่ายทอดสด)ทีมชาติโมร็อกโก VS ทีมชาติสเปนรายการ: ฟุตบอลโลก 2022 รอบ 16 ทีมสุดท้ายแมตช์การแข่งขัน: ทีมชาติโมร็อกโก VS ทีมชาติสเปนวัน/เวลาแข่งขัน: วันอังคาร ที่ 6 ธันวาคม 2565 เวลา 22. 00 น. สนาม: สนามเอดูเคชั่น ซิตี้ สเตเดียม, ประเทศกาตาร์ถ่ายทอดสด: True Sports 2 *หมายเหตุ *: รับชมผ่านทาง แอปพลิเคชั่น TrueID เพียงที่เดียวในประเทศไทย พิเศษสำหรับลูกค้าลูกค้าทรูเท่านั้น / รับชมทาง กล่อง TrueID TV ถ่ายทอดสดผ่านช่อง True Sports 2 และ Free TV ตลอดทัวร์นาเมนต์สภาพความพร้อม ทีมชาติโมร็อกโกทีมชาติโมร็อกโก นัดล่าสุดเอาชนะแคนาดามาได้ 2-1 ทะลุเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย ในฐานะแชมป์กลุ่มเอฟ มาได้อย่างเฉียบขาด ทำให้สถิติ 5 นัดหลังสุดทำได้ ชนะ 3 เสมอ 2 ยังไม่แพ้ใครมาติดๆกันแล้วถือว่าฟอร์มกำลังเข้าฝักกันเลยทีเดียวสำหรับสภาพความพร้อมของทีมในเกมนี้ถือว่าเป็นข่าวดีที่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บเพิ่มเติม อีกทั้งนักเตะที่ติดโทษแบนก็ไม่มี ทำให้นักเตะแกนหลักสามารถพร้อมลงทำศึกได้กันอย่างพร้อมเพรียงเกมนี้ วาลิด เรกรากี กุนซือโมร็อกโก จะส่งกองหลังอย่าง นูสแซร์ มาซราอุย, โรแม็ง ซาอิสส์, นาเยฟ อเกิร์ด และ อาชราฟ ฮาคิมี่ ยืนคุมเกมในแนวรับ ส่วนแดนกลางใช้ อัซเซดีน ฮูนาไฮ, ซอฟยาน อัมราบัต, อับเดลฮามิด ซาบิรี่ และ ฮาคิม ซิเย็ค คอยปั้นเกมในแดนกลาง ส่วนกองหน้าใช้ ยูสเซฟ เอ็น-เนเซรี่ และ โซฟิยาน บูฟาล ที่ลงมาคอยระเบิดประตูคู่แข่งสภาพความพร้อม ทีมชาติสเปนทัพ สเปน เข้ารอบสุดท้ายในฐานะรองแชมป์กลุ่มอี โดยเกมล่าสุดต้องปราชัยให้ ทัพญี่ปุ่น 1-2 แบบเหลือเชื่อ นั่นทำให้สถิติ 5 นัดหลังสุดพวกเขาทำได้ ชนะ 3 เสมอ 1 แพ้ 1 ถือว่าฟอร์มไม่ได้ขี้เหร่เลยทีเดียว สำหรับสภาพความพร้อมของทีมในเกมนี้ทีมยังต้องเช็คความฟิตของ ดานี่ โอลโม่ ว่าจะพร้อมลงเล่นในเกมนัดนี้ได้หรือไม่รวมถึง เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า อีกรายที่ต้องเช็คความฟิตเช่นกัน ส่วนนักเตะที่ติดโทษแบนนั้นไม่ได้มีมาเพิ่มแต่อย่างใด นักเตะแกนหลักหน้าเดิมพร้อมช่วยทีมกันตามตำแหน่งเหมือนเคย ส่วนการจัดทัพในเกมนี้คาดว่า หลุยส์ เอ็นริเก้ จะส่งกองหลังอย่าง ดานี่ การ์บาฆาล, เปา ตอร์เรส, อายเมอริก ลาปอร์กต์ และ ฆอร์ดี้ อัลบา ลงมาผนึกเกมรับ ส่วนกองกลางใช้ เซร์คิโอ บุสเกตส์, โรดรี้, เปดรี้ และ ดานี่ โอลโม่ นี่น่าจะผ่านความฟิตลงมาช่วยทำเกมบุกแดนกลางให้กับทีม ส่วนกองหน้าใช้ เฟร์รัน ตอร์เรส และ อัลบาโร่ โมราต้า คอยพังตาข่ายคู่แข่งตามระเบียบ รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนามโมร็อกโก: ยาสซีน โบโน (GK), นูสแซร์ มาซราอุย, โรแม็ง ซาอิสส์, นาเยฟ อเกิร์ด, อาชราฟ ฮาคิมี่, อัซเซดีน ฮูนาไฮ, ซอฟยาน อัมราบัต, อับเดลฮามิด ซาบิรี่, ฮาคิม ซิเย็ค, ยูสเซฟ เอ็น-เนเซรี่, โซฟิยาน บูฟาลสเปน: อูไน ซิมอน (GK), ดานี่ การ์บาฆาล, เปา ตอร์เรส, อายเมอริก ลาปอร์กต์, ฆอร์ดี้ อัลบา, เซร์คิโอ บุสเกตส์, โรดรี้, เปดรี้, ดานี่ โอลโม่, เฟร์รัน ตอร์เรส, อัลบาโร่ โมราต้าฟอร์มการเล่น 5 นัดหลังสุดโมร็อกโก01/12/22 ชนะ แคนาดา 2-1 (สนามกลาง) ฟุตบอลโลก 202227/11/22 ชนะ เบลเยียม 2-0 (สนามกลาง) ฟุตบอลโลก 202223/11/22 เสมอ โครเอเชีย 0-0 (สนามกลาง) ฟุตบอลโลก 202217/11/22 ชนะ จอร์เจีย 3-0 (สนามกลาง) กระชับมิตร27/09/22 เสมอ ปารากวัย 0-0 (เยือน) กระชับมิตรสเปน02/11/22 แพ้ ญี่ปุ่น 1-2 (สนามกลาง) ฟุตบอลโลก 202227/11/22 เสมอ เยอรมนี 1-1 (สนามกลาง) ฟุตบอลโลก 202223/11/22 ชนะ คอสตาริกา 7-0 (สนามกลาง) ฟุตบอลโลก 202217/11/22 ชนะ จอร์แดน 3-1 (เยือน) กระชับมิตร28/09/22 ชนะ โปรตุเกส 1-0 (เหย้า) ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีกผลงานการพบกัน 5 นัดหลังสุด26/06/18 สเปน เสมอ โมร็อกโก 2-2 (ฟุตบอลโลก 2018)บทวิเคราะห์ทัพ โมร็อกโก ในนาทีคงไม่มีอะไรจะเสียคาดว่าทีมคงเดินหน้าเข้าใส่แบบเต็มกำลัง โดยหวังจะเอาลูกแรกให้ได้ เพื่อกุมความได้เปรียบ แต่ถึงอย่างนั้น ขอเสียของทีมต้องเน้นการตั้งรับให้ดีเพราะ คู่แข่งก็มีอนุภาพการบุกกลับอันตรายไม่น้อยเลย หากประมาทก็อาจเสียทีได้เหมือนกัน ส่วนกองทัพ "กระทิงดุ" แม้นัดล่าสุดจะพ่ายให้ทีม ญี่ปุ่นตัวแทนจากเอเซียมาหมาดๆ แต่ในนัดตัดสิน 16 ทีมสุดท้าย คาดว่า หลุยส์ เอนริเก้ คงแก้ไขข้อผิดพลาดมาอย่างเต็มเต็ง และน่าจะเข็นนักเตะตัวหลักลงสนามเพื่อมา ถล่มคู่แข่งอย่างเต็มสูบเป็นแน่ หากเที่ยบฟอร์มการเล่น และ ศักยภาพของนักเตะทั้งสองทีม บอดเลยว่า ทัพ "กระทิงดุ" ได้เปรียบเรื่องตัวผู้เล่นที่มีความสดอายุยังน้อย และยังสามารถเล่นบอลกับพื้นได้อย่างดี กลางอากาศก็ทำประตูได้ ซึ่งครบเครื่องจัดจ้าน เต็มคาราเบลเหลือเกิน ดูทรงแล้ว โมร็อกโก น่าจะรับมือลำบาก แต่หากพวกเขามีความเฉียบคมก็น่าจะต้านทานไหวอยู่ แต่ก็เหนื่อยไม่น้อยเลย แต่อย่างไรยังเชื่อว่า สเปน มีดีน่าจะเฉือนคว้าชัยทะลุเข้ารอบได้อย่างสะใจแฟนบอลแน่นอน สกอร์ที่คาดโมร็อกโก 1-2 สเปนข่าวที่เกี่ยวข้องโปรแกรมฟุตบอลโลก 2022 เช็กตารางบอลโลก ทุกคู่ตั้งแต่นัดเปิดสนาม-นัดชิงฯอัดแน่น!! ทำความรู้จักฟุตบอลโลก 2022 รวมข้อมูลบอลโลก ที่กาตาร์อลังการดาวล้านดวง!! ส่อง 8 สนามฟาดแข้ง ศึกฟุตบอลโลก กาตาร์ 2022ฟังกันยัง!! Hayya Hayya เพลงประจำการแข่งขันศึกฟุตบอลโลก 2022รู้จัก "ลาอีบ" มาสคอตแห่งศึกฟุตบอลโลก 2022'อัล ริห์ลา' ลูกบอลที่พุ่งแหวกอากาศเร็วที่สุดในประวัติศาสตร์ฟุตบอลโลกสรุปทีมที่ได้ผ่านเข้าไปเล่น ศึกฟุตบอลโลก 2022 รอบสุดท้าย ที่กาตาร์-------------------------------------------------วิธีการดูบอลพรีเมียร์ลีก 2022/23 ที่ TrueID: แพ็กเกจชมครบทุกคู่ - ซิมทรูชมทีมโปรดฟรี! รวมข้อมูลแก้ไขปัญหาการใช้งาน รับชม หรือโปรโมชันกิจกรรมต่างๆ << คลิกที่นี่เด็ดทุกคลิป ทันทุกช็อต พร้อมผลบอลโลกก่อนใครสมัครรับ กด *301*022# 59 บ.
maالمغرب. ^ ศาสนาประจำชาติ^ พื้นที่ 446, 550 ตารางกิโลเมตร (172, 410 ตารางไมล์) ไม่รวมดินแดนพิพาททั้งหมด ส่วน 710, 850 ตารางกิโลเมตร (274, 460 ตารางไมล์) รวมดินแดนอ้างสิทธิของโมร็อกโกและพื้นที่ควบคุมบางส่วนของเวสเทิร์นสะฮารา (อ้างสิทธิเป็นสาธารณรัฐประชาธิปไตยอาหรับซาห์ราวีโดยแนวร่วมโปลิซาริโอ) โมร็อกโกยังอ้างสิทธิเซวตาและเมลียา ซึ่งรวมพื้นที่อ้างสิทธิอีกประมาณ 22. 8 ตารางกิโลเมตร (8. 8 ตารางไมล์) โมร็อกโก[a] มีชื่อทางการคือ ราชอาณาจักรโมร็อกโก, [b] เป็นรัฐเดี่ยวและรัฐเอกราชที่ตั้งอยู่ในภูมิภาคมาเกร็บในแอฟริกาเหนือ เป็นหนึ่งในถิ่นกำเนิดชนเบอร์เบอร์[13][14] ในทางภูมิศาสตร์โมร็อกโกมีเทือกเขาหินขรุขระตรงกลาง มีทะเลทรายขนาดใหญ่และมีชายฝั่งยาวมาตั้งแต่มหาสมุทรแอตแลนติกจนถึงทะเลเมดิเตอเรเนียน โมร็อกโกมีพื้นที่ประมาณ 710, 850 ตารางกิโลเมตรและประชากรกว่า 35, 276, 786 คน[15] เมืองหลวงชื่อราบัตและมีเมืองใหญ่สุดชื่อกาซาบล็องกา นอกจากนี้ยังมีเมืองสำคัญอื่น ๆ อีกอาทิมาร์ราคิช แทงเจียร์ ซาเล่ห์ แฟ็ส แม็กแน็สและ วัจด้า ในทางประวัติศาสตร์โมร็อกโกเป็นประเทศอำนาจนำภูมิภาคมีความเป็นอิสระและไม่ได้ถูกยุ่งเกี่ยวหรือรุกรานโดยเพื่อนบ้านตั้งแต่สุลต่าน โมเลย์ อิดริส ที่ 1ก่อตั้งรัฐโมร็อกโกครั้งแรกใน พ.
World Cup ฉบับทะเลทราย : มหาอำนาจแถวไหน??? - แนวหน้า
2534 ปัจจุบันโมร็อกโกครอบครองดินแดนสองในสาม โมร็อกโกปกครองแบบราชาธิปไตยภายใต้รัฐธรรมนูญกับรัฐสภาที่มาจากการเลือกตั้ง กษัตริย์โมร็อกโกมีอำนาจบริหารและอำนาจนิติบัญญัติอย่างมาก โดยเฉพาะการทหาร นโยบายต่างประเทศและศาสนา อำนาจบริหารออกใช้โดยรัฐบาล ขณะที่สภานิติบัญญัติเป็นของรัฐบาลและสภาผู้แทนราษฎรโมร็อกโกและราชมนตรีสภาทั้งสองสภา กษัตริย์สามารถออกพระราชกฤษฎีกาที่เรียกว่าดาฮีร์ซึ่งมีผลบังคับใช้ตามกฎหมาย นอกจากนี้กษัตริย์สามารถยุบสภาหลังจากปรึกษานายกรัฐมนตรีและประธานศาลรัฐธรรมนูญ ชาวโมร็อกโกส่วนมากนับถือศาสนาอิสลามมีภาษาราชการคือภาษาอาหรับและภาษาเบอร์เบอร์ ภาษาเบอร์เบอร์เป็นภาษาหลักของโมร็อกโกก่อนที่อาหรับจะมามีบทบาทในคริสศ์ศตวรรษที่ 600 [16][17] ภาษาอาหรับในโมร็อกโกเรียกว่า Darija โมร็อกโกเป็นสมาชิกของสันนิบาตอาหรับ สหภาพเมดิเตอร์เรเนียนและสหภาพแอฟริกา และมีเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับที่ห้าของแอฟริกา ภูมิศาสตร์[แก้] โมร็อกโกมีชายฝั่งยาวตั้งแต่มหาสมุทรแอตแลนติกยาวขึ้นไปผ่านช่องแคบยิบรอลตาร์จนถึงทะเลเมดิเตอเรเนียน ทางเหนือติดกับสเปน (เซวตา เมลียาและโขดหินเบเลซเดลาโกเมรา) ทางทิศตะวันออกจรดแอลจีเรีย จรดซาฮาราตะวันตกทางทิศใต้ ตั้งแต่โมร็อกโกควบคุมส่วนใหญ่ของซาฮาราตะวันตกจึงมีพรมแดนด้านใต้ติดกับประเทศมอริเตเนียโดยพฤตินัย ประเทศโมร็อกโกตั้งอยูที่ละติจูด 27 องศาถึง 36 องศาเหนือและจากลองจิจูด 1 องศาถึง 17 องศาตะวันตก แต่หากร่วมพื้นที่ซาฮาราตะวันตกโมร็อกโกจะตั้งอยู่ระหว่างละติจูด 21 องศาถึง 36 องศาเหนือและจากลองจิจูด 1 องศาถึง 17 องศาตะวันตก พื้นที่ของโมร็อกโกครอบคลุมตั้งแต่ชายฝั่งแอตแลนติก พื้นที่ภูเขาตรงกลางและทะเลทรายซาฮาร่า โมร็อกโกเป็นประเทสในแอฟริกาเหนือติดกับมหาสมุทรแอตแลนติกและทะเลเมดิเตอร์เรเนียนระกว่างแอลจีเรียกับซาฮาราตะวันตก และเป็นหนึ่งในสามประเทศที่มีชายฝั่งติดกับมหาสมุทรแอตแลนติกและทะเลเมดิเตอร์เรเนียน (อีกสองประเทศคือสเปนและฝรั่งเศส) พื้นที่ส่วนใหญ่ของโมร็อกโกเป็นภูเขา เทือกเขาแอตลาสตั้งอยู่ตรงกลางและทางตอนใต้ของประเทศ เทือกเขาริฟอยู่ทางตอนเหนือของประเทศ เทือกกเขาทั้งสองนี้มีชาวเบอร์เบอร์อาศัยอยู่ หากไม่นับซาฮาราตะวันตกจะมีพื้นที่ 446, 550 กิโลเมตรมีขนาดเป็นอันดับที่ 57ของโลก ติดกับแอลจีเรียทางตะวันออกและตะวันออกเฉียงใต้แม้ว่าชายแดนระหว่างสองประเทศถูกปิดตั้งแต่ พ.
2174 ใน พ. 2455 โมร็อกโกถูกแบ่งเป็นโมร็อกโกในอารักขาของฝรั่งเศส โมร็อกโกในอารักขาของสเปนกับเขตสากลในแทนเจียร์และกลับมาได้รับเอกราชใน พ. 2499 วัฒนธรรมชาวโมร็อกโกจะเป็นแบบผสมผสานตามอิทธิพลของเบอร์เบอร์ อาหรับ แอฟริกาตะวันตกและยุโรป โมร็อกโกอ้างว่าเวสเทิร์นสะฮาราดินแดนที่ไม่ได้ปกครองตนเองซึ่งเคยเป็นสะฮาราของสเปนนั้นเป็นจังหวัดทางใต้ของโมร็อกโก หลังจากสเปนตกลงที่จะปลดปล่อยดินแดนนี้ให้โมร็อกโกและมอริเตเนียใน พ. 2518 ชาวซาห์ราวีได้ทำสงครามแบบกองโจร มอริเตเนียถอนตัวออกจากดินแดนที่มีสิทธิครอบครองใน พ. 2522 และสงครามอันยืดเยื้อก็ยุติจากการหยุดยิงใน พ.
แคนาดา โมร็อกโก-【ญี่ปุ่น vs สเปน】 - การยางแห่งประเทศไทย
โมรอคโค (Morocco) เสน่ห์แห่งโลกตะวันออกกลาง บนดินแดนแอฟริกาโมรอคโค (Morocco) ประเทศทางตอนเหนือของทวีปแอฟริกา มีพื้นที่ติดต่อทั้งชายฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติกเหนือ และทะเลเมดิเตอร์เรเนียน มีชายแดนทางตอนใต้ติดกับทางตะวันตกของทะเลทรายซาฮารา ทางตะวันออกติดกับแอลจีเรีย และอาณานิคมเล็ก ๆ ของชาวสเปนนิชแอฟริกัน ซึ่งตั้งอยู่บนชายฝั่งทางตอนเหนือของทะเลเมดิเตอร์เรเนียนด้วยระยะทางที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากประเทศทางยุโรปมากนัก โมรอคโคมีทุกสิ่งที่จะทำให้เหล่านักท่องเที่ยวหลงรักในสีสัน กลิ่นอาย และเสียงเพรียกแห่งโลกตะวันออกกลางบนดินแดนแอฟริกาแห่งนี้ ตลาดกลางแจ้งที่เต็มไปด้วยผู้คน และร้านค้าขายเครื่องเทศ มัสยิดที่แสนงดงาม เมืองเรียบชายหาดสีขาว และใจกลางเมืองที่ยังคงความดั้งเดิมในแบบสมัยยุคกลาง และด้วยทัศนียภาพที่หลากหลายของประเทศ ตั้งแต่ยอดเขาที่ปกคลุมไปด้วยหิมะจนถึงทัศนียภาพของทะเลทรายซาฮารา ที่กว้างไกลสุดลูกหูลูกตา เป็นที่แน่ชัดว่าทุกคนที่มาเยี่ยมเยือนโมรอคโค จะไม่มีทางรู้สึกเบื่อประเทศที่งดงามแห่งนี้อย่างแน่นอน ( ดูโปรโมชั่นทัวร์โมร็อคโค)การเดินทางท่องเที่ยวโมรอคโค หากเริ่มจากเที่ยวเมืองคาซาบลังกา (Casablanca) จะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด เพราะว่าเมืองแห่งนี้เป็นเมืองท่าที่ใหญ่ และมีชื่อเสียงที่สุดในประเทศ ทั้งยังเป็นที่ตั้งของมัสยิด Hassan II Mosque มัสยิดที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับสองของโลก รองจากมัสยิดแห่งเมืองเมกกะ ประเทศซาอุดิอาระเบีย โดยทั่วไปแล้วนักท่องเที่ยวมักจะใช้เวลาในการท่องเที่ยวเมืองแห่งนี้ไม่นาน แต่เพียงการได้ชมสถาปัตยกรรมการตกแต่งบ้านเมืองของที่นี่ ก็ถือว่าคุ้มค่ากับการมาเยือนแล้วเมื่อออกจากเมืองคาซาบลังกา แล้วสามารถมุ่งหน้าไปเที่ยวที่เมืองมาราเกช ซึ่งเป็นที่รู้จักในอีกชื่อหนึ่งว่า "นครสีชมพู" เนื่องจากเมืองนี้มีลักษณะโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ ด้วยสีของตึกรามบ้านช่อง ตั้งแต่อดีตสร้างความประทับใจตราตรึงใจ ให้แก่ผู้พบเห็นครั้งแรกที่ก้าวข้ามมาในเมือง สถานที่น่าสนใจเมืองนี้ คือ ตลาดกลางแจ้งที่คึกคักไปด้วยผู้คน ประตู และกำแพงเมืองเก่าแก่ หลุมฝังศพ Saadian ซากปรักหักพังของปราสาท El Badi และมัสยิด Koutoubia และหอสูงประจำสุเหร่าที่มีอายุเก่าแก่กว่า 12 ศตวรรษ ก่อนพระอาทิตย์ตกดิน ไม่ควรลืมเดินทางไปแวะย่าน Jemaa el-Fnaa จัตุรัสที่ใหญ่ที่สุดในแอฟริกา เป็นแหล่งรวบรวมร้านขายอาหาร และพื้นที่แสดงความสามาระอันหลากหลายของชาวมาราเกชAït Benhaddou เมืองป้อมปราการเก่าแก่ ที่ตั้งอยู่ตามเส้นทางคาราวานระหว่างทะเลทรายซาฮารา และเมืองมาราเกช ปัจจุบันเมืองแห่งนี้เป็นทั้งที่อยู่อาศัยของคนท้องถิ่นบางส่วน และพ่อค้าที่ขายสินค้าหลากหลายให้แก่นักท่องเที่ยวที่มาเยือน ลักษณะของตัวบ้านเรือนทำจากดินเหนียวสีแดงทั้งหลัง นับว่าเป็นต้นแบบที่ล้ำค่าของสถาปัตยกรรมการสร้างบ้านด้วยดินเหนียวสไตล์โมรอคโคอีกเมืองที่น่าสนใจไม่แพ้กัน คือ เมืองเฟส (Fes) อดีตเมืองหลวงที่ยังคงความงดงามจากอดีตจวบจนปัจจุบัน เสน่ห์ของเมือง คือ ถนนเก่าแก่ตั้งแต่สมัยยุคกลาง ที่มีเส้นทางคดเคี้ยวคล้ายกับเขาวงกต ประตูเมือง และมหาวิทยาลัยโบราณ University of Al-Karaouine และ Bou Inania Madrasa นอกจากนี้ไม่ควรพลาดแวะชมกรรมวิธีการฟอกเครื่องหนังแบบดั้งเดิมที่โรงงาน Chouara Tannery โรงงามย้อมฟอกหนังที่เก่าแก่ และใหญ่ที่สุดในเมือง ตั้งอยู่ที่ Blida street Fes Medina และเนื่องจากโรงงานตั้งอยู่ท่ามกลางถนนที่ค่อนข้างแคบ การเดินทางไปที่แห่งนี้ จึงสามารถเดินทางไปได้ด้วยการเดินเท้าเท่านั้นสมาชิกบัตรเครดิต KTC เที่ยวแอฟริกา เที่ยวต่างประเทศ จองตั๋วเครื่องบิน จองโรงแรม จองรถเช่า ประกันการเดินทาง หรือ ปรึกษาข้อมูลการเดินทางท่องเที่ยว โปรโมชั่นสายการบิน โปรโมชั่นที่พัก ฯลฯ แสนสะดวก ไม่มีค่าธรรมเนียมการรูดบัตร ได้ที่ KTC World Travel Service โทร.
ma[20] หมายเหตุ[แก้] อ้างอิง[แก้] ↑ "MANDATE". UNITED NATIONS. 26 October 2016. ↑ 2. 0 2. 1 "Morocco". World Factbook. Central Intelligence Agency. ↑ "Présentation du Maroc". Ministère de l’Europe et des Affaires étrangères (ภาษาฝรั่งเศส). ↑ Oukhira, Fatima Zahra. "The teaching of English in Morocco". ↑ "Morocco". Central Intelligence Agency. 23 September 2021. Ethnic groups: Arab-Berber 99%, other 1% ↑ "Constitution of the Kingdom of Morocco, I-1" (PDF). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 18 May 2012.
ประเทศโมร็อกโก - วิกิพีเดียจากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี พิกัดภูมิศาสตร์: 32°N 6°W / 32°N 6°W ราชอาณาจักรโมร็อกโกالمملكة المغربية (อาหรับ)ⵜⴰⴳⵍⴷⵉⵜ ⵏ ⵍⵎⵖⵔⵉⴱ (Standard Moroccan Tamazight) ธงชาติ ตราแผ่นดิน คำขวัญ: الله، الوطن، الملك (อาหรับ)ⴰⴽⵓⵛ, ⴰⵎⵓⵔ, ⴰⴳⵍⵍⵉⴷ (Standard Moroccan Tamazight)"พระเจ้า, ประเทศ, กษัตริย์"เพลงชาติ: النشيد الوطني المغربي (อาหรับ)ⵉⵣⵍⵉ ⴰⵏⴰⵎⵓⵔ ⵏ ⵍⵎⵖⵔⵉⴱ (Standard Moroccan Tamazight)("เพลงชาติโมร็อกโก")ที่ตั้งของประเทศโมร็อกโกในแอฟริกาตะวันตกเฉียงเหนือสีเขียวเข้ม: ดินแดนของโมร็อกโกสีเขียวอ่อน: เวสเทิร์นสะฮารา ดินแดนที่โมร็อกโกอ้างสิทธิและครอบครองพื้นที่ส่วนใหญ่ในฐานะจังหวัดทางใต้[หมายเหตุ 1]เมืองหลวงราบัต34°02′N 6°51′W / 34.
2018. p. 179. สืบค้นเมื่อ 18 December 2020. ↑ Human Development Report 2020 The Next Frontier: Human Development and the Anthropocene (PDF). United Nations Development Programme. 15 December 2020. pp. 343–346. ISBN 978-92-1-126442-5. สืบค้นเมื่อ 16 December 2020. ↑ "Morocco Keeps Clocks Steady on GMT+1". 28 October 2018. ↑ Books Llc (September 2010). Ethnic Groups in Morocco: Berber People. General Books LLC. ISBN 978-1-156-46273-7.
เที่ยวบินราคาถูกจากโมร็อกโกไปสเปน - Skyscanner
เที่ยวคาบสมุทรไอบีเรีย สเปน โปรตุเกส โมร็อกโก | Shopee Thailand
2537 มีดินแดนห้าแห่งของสเปนบนชายฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียนในแอฟริกาเหนือที่ติดและอยู่ใกล้กับโมร็อกโกได้แก่เซวตาและเมลียา หมู่เกาะชาฟารีนัส โขดหินอาลูเซมัสและโขดหินเบเลซเดลาโกเมราและดินแดนพิพาทอีก 1 แห่งคือเกาะเล็กแพราจิล นอกจากนี้ชายฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติกยังใกล้กับหมู่เกาะคะแนรีของสเปน และมาเดราของโปรตุเกสทางเหนือของโมร็อกโกมีพรมแดนติดกับช่องแคบยิบรอลตาร์ที่สามารถส่งสินค้าระหว่างประเทศไปมาระหว่างมหาสมุทรแอตแลนติกและทะเลเมดิเตอร์เรเนียนได้ เทือกเขาริฟทอดตัวยาวตามชายฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียนจากตะวันตกเฉียงเหนือไปทางตะวันออกเฉียงเหนือ เทือกเขาแอตลาสที่อยู่กลางคล้ายกระดูกสันหลังของประเทศนั้นทอดตัวตั้งแต่ตะวันออกเฉียงเหนือไปตะวันตกเฉียงใต้ ทางตะวันออกเฉียงใต้ประเทศมีทะเลทรายซาฮาราซึ่งไม่ค่อยมีประชากรอาศัยและไม่มีการก่อผลทางเศรษฐกิจ ประชากรส่วนใหญ่อาศัยอยู่ทางตอนเหนือบริเวณ 2 เทือกเขานี้ ขณะที่ประชากรทางใต้จะอยู่ในซาฮาราตะวันตกซึ่งเป็นอาณานิคมของสเปนในอดีตที่ถูกผนวกโดยโมร็อกโกเมื่อ พ.
World Cup ฉบับทะเลทราย: มหาอำนาจแถวไหน??? วันอังคาร ที่ 6 ธันวาคม พ. ศ. 2565, 06. 00 น. แอฟริกาตอนเหนือ กับ ยุโรปใต้ ชื่ออาจจะอยู่ต่างขั้ว แต่ตามแผนที่โลกแล้ว “ติดกันโดยเจตนา” จากการรังสรรค์ของธรรมชาติ และคนที่เขียนขีดเส้นแบ่งของทวีปน่าสนใจว่า ฟุตบอลโลก รอบ 16 ทีม จะมี 3 ทีมที่อยู่ใกล้กันได้เขัารอบ และเตะในวันเดียวกันด้วย นั่นก็คือ โปรตุเกส จากยุโรปใต้ เจอกับ สวิตเซอร์แลนด์ แต่ที่ปะทะกันตรงๆ ก็คือ โมร็อกโก กับ สเปน ระยะห่างจากเมนแลนด์ของ สเปน กับ โมร็อกโก วัดได้เพียงแค่ 14 กิโลเมตรเท่านั้นโดยมีทะเลเมดิเตอร์เรเนียน กางกั้น และด้วยความที่ไม่ห่างกันตรงนี้ ย่อมมีอดีตที่ดีหรือขื่นขมซึ่งกันและกัน โดยเลี่ยงหลีกได้ยากมากๆ ตัวอย่างเช่น “อันดาลูเซีย” ดินแดนแห่งวัฒนธรรมผสมผสาน และเป็นดินแดนยุโรปที่ได้รับอิทธิพลจากความร้อนมากกว่าแห่งหนใดในทวีปนี้เลยก็ว่าได้ เป็นแคว้นที่มีประชากรมากที่สุดเป็นอันดับ 1 และมีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 ในจำนวนแคว้นปกครองตนเอง 17 แห่ง ที่ประกอบขึ้นเป็นประเทศสเปน เมืองหลวงชื่อว่า เซบีญ่า หรือเซวิลล์ นี่คือเมืองเก่าแก่ทางตอนใต้ของสเปน ดินแดนเซบีญ่า มีเหล้าเชอรี่ชั้นดี, การสู้วัวกระทิง, รวมทั้งการเต้นระบำฟลามิงโก ล้วนแล้วแต่อยู่ที่เมืองนี้ จากการการผสมผสานเชิงวัฒนธรรม กล่าวคือ เซวิลล์ ถูกก่อตั้งโดย ฟีนิเชียน (Phoenicians) จากนั้น โรมัน ก็มาครอบครอง ต่อด้วย กองทัพมุสลิมของชาวมัวร์ หรือ “แขกมัวร์” ที่เราคุ้นเคย ผสมกลิ่นอายของไอบีเรีย ที่นี่คืออีกหนึ่งสถานที่บนโลกที่เปี่ยมไปด้วยความคลาสสิกของส่วนผสมที่ลงตัว สถาปัตยกรรมมัวร์ เราจะเห็นได้ทั้งที่ สเปน และโปรตุเกส หลังจากสองชาตินี้เคยถูกปกครองโดยมุสลิม ระหว่างปี ค.
โมร็อกโกปะทะสเปน ศึกนี้ที่ไม่มีใครยอมใคร - TrueVisions
711-1492 มัวร์ มาจากกคำภาษาละตินคือ “เมารี” ซึ่งผู้ที่มาจากดินแดนนี้โดยตรงก็คือพวกมอเรตานิอา มาวางรากสถาปัตยกรรมมัวร์เอาไว้ ที่มาของคนเหล่านี้คือ ประเทศโมร็อกโก ในปัจจุบัน สถาปัตยกรรมอิสลามตะวันตก จึงเป็นความภาคภูมิใจของโมร็อกโก แต่ในขณะเดียวกันพวกเขาก็เคยถูกกระทำจาก สเปน ที่เข้ามายึดพวกเขาพร้อมๆ กับการรุกรานของฝรั่งเศส โมร็อกโก รอดพ้นเงื้อมมือของความเรืองอำนาจของ จักรวรรดิอ็อตโตมัน ที่มาตันที่แอลจีเรีย แต่เข้าไม่ถึงพวกเขา เช่นเดียวกับยุคค้าทาสแอฟริกันชน และการรุกเพื่อไล่ล่าอาณานิคม ส่วนใหญ่แล้ว โมร็อกโก สามารถบล็อกพื้นที่ภายในเอาไว้ได้ทั้งหมด ความร่ำรวยของพวกเขาทำให้เป็นที่หมายปองของ อังกฤษ, ฝรั่งเศส รวมถึงสองชาติที่อยู่ใกล้ๆ อย่าง โปรตุเกส และสเปน ลงท้าย ฝรั่งเศส ทุบ แอลจีเรีย แตกกระเจิง และใช้เวลาอีก 14 ปีกำราบ โมร็อกโก ได้สำเร็จ ในปี 1844 ทำให้ต้องลงสนามสนธิสัญญาแทนเจียร์ เพื่อลมหายใจในเอกราช กระทั่งมาลงนามการค้ากับเจ้าแห่งทะเลในยุคนั้นอย่าง อังกฤษ ด้วยการมอบสิทธิพิเศษเสรีกับนานาชาติ เพื่อแลกกับเอกราช เมื่อปี 1856 การพ่ายแพ้ทั้งสองครั้ง โมร็อกโก ก็เจ็บปวดไม่น้อย แต่การถูก สเปน บุกมาถล่มเมื่อปี 1859 เป็นบาดแผลใหญ่ เพราะพวกเขาแพ้และทรัพย์สมบัติของประเทศเวลานั้นไม่พอต่อการจ่ายค่าปฏิกรรมสงคราม ทำให้ต้องไปกู้หนี้ยืมสินจาก อังกฤษ มาจ่ายให้ สเปน งานนั้น โมร็อกโก ต้องเสียทั้งเงิน เสียทั้งดินแดนบางส่วนไปให้กับสเปน การพ่ายแพ้ครั้งนั้นมันทอดยาวมาอีกหลายทศวรรษ กระทั่ง อังกฤษ ล่าถอยจากดินแดนนี้ไปเอง ทำให้ สเปน กับ ฝรั่งเศส เรืองอำนาจในโมร็อกโก กระทั่ง ฝรั่งเศส รุกหนักและยึดดินแดนแห่งนี้อยู่ใต้อาณัติของตัวเองได้ตามสนธิสัญญาเมืองเฟส เมื่อปี 1912 จากนั้นฝรั่งเศส ลงสนามแบ่งดินแดนทางเหนือให้กับ สเปน ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับ อันดาลูเซีย และพื้นที่ทางตอนใต้บางส่วนที่พวกเขาเคยยึดซาฮาราตะวันตกมาก่อนหน้านี้ โมร็อกโก ภายใต้อารักขาของ ฝรั่งเศส มี ราบัต เป็นเมืองหลวง และโมร็อกโก ภายใต้อารักขาของ สเปน มี เตตวน เป็นเมืองหลวง...
↑ Jamil M. Abun-Nasr (20 August 1987). A History of the Maghrib in the Islamic Period. Cambridge University Press. ISBN 978-0-521-33767-0. ↑ "การประเมินประชากรโลก พ. 2560". ESA. UN. org (custom data acquired via website). United Nations Department of Economic and Social Affairs, Population Division. สืบค้นเมื่อ 10 September 2017. ↑ Rodd, Francis. "Kahena, Queen of the Berbers: "A Sketch of the Arab Invasion of Ifriqiya in the First Century of the Hijra" Bulletin of the School of Oriental Studies, University of London, Vol.
รัฐในอารักขาของสเปนในโมร็อกโก ประวัติศาสตร์และเศรษฐกิจ
2518[18] และอ้างว่าเป็นจังหวัดทางใต้ เมืองหลวงของโมร็อกโกคือเมืองราบัต เมืองใหญ่สุดเป็นเมืองท่าชื่อกาซาบล็องกา และเมืองอื่น ๆ ที่มีประชากรมากกว่า 500, 000 คนในการสำรวจสำมะโนประชากรโมร็อกโก 2557 อย่างมาร์ราคิช แฟ็ส แม็กแน็ส แทงเจียร์และซาเล่ห์[19] โมร็อกโกใช้ MA ในมาตรฐาน ISO 3166-1 alpha-2[20] รหัสนี้ใช้เป็นพื้นฐานของโดเมนระดับบนสุดของโมร็อกโก.
ฟุตบอล โมร็อกโก
วิเคราะห์บอลคืนนี้ฟุตบอลโลก 2022 : โมร็อกโก พบ สเปน (รอบ 16 ทีม)
1332 ประเทศถูกปกครองโดยระบบราชวงศ์และเจริญสุดขีดในช่วงราชวงศ์อัลโมราวิดและราชวงศ์อัลโลฮัดซึ่งครอบครองส่วนหนึ่งของคาบสมุทรไอบีเรียและแอฟริกาตะวันตกเฉียงเหนือ ราชวงศ์มารีนิดและราชวงศ์ซาดีได้ยืนหยัดต่อต้านการรุกร่านจากต่างประเทศ อีกทั้งโมร็อกโกเป็นประเทศในแอฟริกาเหนือประเทศเดียวที่เลี่ยงการยึดครองจากจักรวรรดิออตโตมันได้ ราชวงศ์อเลาอัวซึ่งปกครองประเทศอยู่ในปัจุบันนั้นขึ้นมามีอำนาจในโมร็อกโกตั้งแต่ พ.
033°N 6. 850°Wเมืองใหญ่สุดกาซาบล็องกา33°32′N 7°35′W / 33. 533°N 7. 583°Wภาษาราชการอาหรับเบอร์เบอร์ภาษาพูดภาษาอาหรับโมร็อกโกภาษาอาหรับฮะซานิยะฮ์เบอร์เบอร์ฝรั่งเศส[หมายเหตุ 2]ภาษาต่างชาติอังกฤษ • สเปน[4]กลุ่มชาติพันธุ์ (2014[5])99% อาหรับ-เบอร์เบอร์1% อื่น ๆศาสนา 99% อิสลาม (ศาสนาประจำชาติ)1% อื่น ๆ (รวมคริสต์, ยิว และบาไฮ)[2]การปกครองรัฐเดี่ยว ระบบรัฐสภา ราชาธิปไตยกึ่งภายใต้รัฐธรรมนูญ [6]• กษัตริย์ สมเด็จพระราชาธิบดีมุฮัมมัดที่ 6• นายกรัฐมนตรี อะซีซ อะค็อนนูชสภานิติบัญญัติรัฐสภา• สภาสูงราชมนตรีสภา• สภาล่างสภาผู้แทนราษฎรก่อตั้ง• ราชวงศ์อิดรีซิด 788• ราชวงศ์อะละวี (ราชวงศ์ปัจจุบัน) 1631• ก่อตั้งรัฐในอารักขา 30 มีนาคม ค. ศ. 1912• เป็นเอกราช 7 เมษายน ค. 1956พื้นที่• รวม710, 850 ตารางกิโลเมตร (274, 460 ตารางไมล์)หรือ 446, 550 km2 (172, 410 sq mi)[b] (อันดับที่ 39 หรือ 57)• แหล่งน้ำ (%)0.
โมร็อกโก เทียบ กับ สเปน ตัวต่อตัว - AiScore Football LiveScore